3 ทักษะการเป็นผู้นำที่ต้องมีในยุค AI

เป็นที่เข้าใจตรงกันว่าประโยชน์ของ Artificial Intelligence หรือ AI ในโลกธุรกิจนั้นมีมากมาย แต่ AI ยังมาเปลี่ยนวิถีการตัดสินใจของผู้นำในองค์กรอีกด้วย

https://unsplash.com/

การเติบโตของ AI นั้นรวดเร็วและมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบทบาทของผู้นำในองค์กร AIนั้นใช้เทคโนโลยีอย่าง Machine Learning ซึ่งก็คือระบบที่สามารถเรียนรู้ได้จากตัวเองโดยปราศจากการป้อนคำสั่งของโปรแกรมเมอร์ หรือ Advanced Data Analytics ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคการสร้างโมเดลขั้นสูง เพื่อทำนายหรือคาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือใช้ค้นหารูปแบบบางอย่างที่ทั่วไปแล้วมนุษย์ไม่สามารถระบุได้ Advanced Data Analytics สามารถตอบคำถาม เช่น “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้ต่อไป” หรือ “ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้คืออะไร” ผู้นำองค์กรสามารถใช้โมเดล AI เหล่านี้เพื่อแนะนำถึงสิ่งที่ควรจะทำในหลายๆสถานการณ์ขององค์กร

https://unsplash.com/

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนี้ทำให้เราต้องกลับมาพิจารณาความหมายของคำว่าความเป็นผู้นำในอนาคตกันใหม่

เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น AI ก็สามารถตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้ลดทอนบทบาทการตัดสินใจทางธุรกิจที่เป็นกิจวัตร เช่นการสั่งซื่อสินค้า การส่งสินค้า แต่ผู้นำในวันนี้และอนาคตต้องเสริมสร้างทักษะการตัดสินใจที่อาศัย “Human Touch” ซึ่ง AI ทำไม่ได้และในไม่ช้าผลจากการที่องค์กรนำเทคโนโลยี AI เข้ามาอยู่ในกระบวนการทำงาน ทำให้ผู้นำและคนในตลาดงานทั่วโลก ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ซึ่งเราสรุป 3 ข้อใหญ่ๆมาให้ดังนี้

https://unsplash.com/

1. Learning to unlearn
ในยุค AI นี้ เทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจ จะมีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าความรู้ที่เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จะล้าสมัยและหมดประโยชน์อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นผู้นำต้องมีความยืดหยุ่นในการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยรู้มาและเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่งที่เคยรู้ด้วยมุมมองใหม่ๆ

https://unsplash.com/

2. วางแผนให้ไกลแต่พร้อมปรับเปลี่ยนเสมอ
การมองการณ์ไกลเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญเสมอมาของผู้นำ และจะมีทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีกในยุคของ AI ถึงแม้ผู้นำที่ดีต้องตระหนักว่ากำลังพาทีมหรือองค์กรไปในทิศทางใด แต่ในขณะเดียวกัน Roadmap หรือแผนงานนั้นต้องมีความยืดหยุ่นและพร้อมเปิดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุกขณะ องค์กรต้องการผู้นำที่มีแนวคิดแบบอไจล์ (Agile) ธุรกิจจะอยู่รอดได้ในวันข้างหน้าไม่ได้แข่งกันที่ความสามารถเท่านั้น แต่เป็นเรื่องความเร็วในการตัดสินใจด้วย

https://unsplash.com/

3. พัฒนา Soft Skills เพื่อเบิกทางในยุค AI
เป็นที่สังเกตได้ว่า ในยุคที่เทคโนโลยีเช่น AI กำลังรุ่งโรจน์ และ Automation เช่นหุ่นยนต์จะมาแทนที่งานซ้ำๆที่มนุษย์เคยทำ กลับทำให้ Soft Skills ทั้งหลายถูกขับเน้นให้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น นั้นเพราะ Soft Skills เป็นทักษะที่เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนกันได้ ในขณะที่ “Hard Skills” นั้นถูกแทนที่โดย AI และหุ่นยนต์

https://unsplash.com/

หน้าที่สำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั้น ต้องมองหาผู้จัดการที่สามารถฝึกและถ่ายทอดความรู้ให้พนักงานหน้างานมีความสามารถในการทำงานกับข้อมูลมหาศาลและเน้นการคิดเชิงวิเคราะห์ให้มากขึ้น เพิ่มขีดความในสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของผู้บริหารระดับ C-level นั้น ทักษะการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน การคิดวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์จะมีบทบาทที่สำคัญมาก ซึ่งทักษะเหล่านี้จะมีได้ต่อเมื่อผู้บริหารมีทักษะการเข้าใจผู้อื่น หรือ Empathy ซึ่งเป็นความสามารถของผู้นำแต่ละคนในการรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นอย่างลึกซึ้งและหยั่งถึง จากมุมมองที่เขาใช้มองสิ่งต่างๆ หรืออาจจะบอกว่าผู้นำในยุค AI ต้องมีความสามารถอ่านความรู้สึกของคนอื่นออก และสามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดีในแต่ละสถานการณ์

https://unsplash.com/

เราจะเห็นได้ว่าทักษะทั้งสามที่ผู้นำองค์กรควรมีเหล่านี้ ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่ทักษะเหล่านี้โดยขับให้โดดเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะวันที่ AI ก้าวเข้ามามีบทบาท เป็นวันที่ผู้บริหารทุกคนต้องปรับตัวเพื่อก้าวผ่านจุดเปลี่ยนนี้มาให้ได้

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *