เราทุกคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรล้วนแล้วแต่สามารถช่วยสรรค์สร้างองค์กรให้ดีมีประสิทธิภาพได้ทั้งสิ้น จริงอยู่ที่บางลักษณะงานเป็นดั่งฟันเฟืองที่ต้องหมุนตามงานอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นก็อย่าได้ดูถูกคุณค่าของตัวเอง เพราะแต่ละฟันเฟือง ก็มีความคิด ความต้องการและความสร้างสรรค์ เป็นของตัวเอง ดังนั้นอย่าลืมว่า เรามีเป้าหมายในชีวิต มีความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน แม้ว่าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนองค์กรให้สมบูรณ์แบบได้ในทันที แต่เราสามารถเริ่มเปลี่ยนตัวเองให้เป็นพนักงานชั้นเลิศได้ก่อนในวันนี้ สำหรับวันนี้ก็อยากจะแนะนำ “ 7 เทคนิควิธีการเพื่อเป็นคนคุณภาพมี Productivity ที่สูง ”

ข้อที่ 1 – การวางแผนและปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด เพราะแผนงานคือกรอบความคิดที่เราได้กำหนดไว้แล้วว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและควรจะได้รับการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ เมื่อมีแผนแล้วจะต้องแตกแผนใหญ่ออกเป็นแผนย่อย ปฏิบัติและตรวจประเมินเป็นระยะ

ข้อที่ 2 – จัดลำดับของงานที่สำคัญว่าจะทำ หลายครั้งที่การทำงานขาดการจัดลำดับความสำคัญ สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการในขณะนั้น แต่สิ่งที่ต้องการเร่งด่วนกลับไม่เสร็จหรือยังไม่ได้เริ่มกระทำ ซ้ำร้ายถ้างานนั้นจะต้องเกี่ยวเนื่องหรือส่งต่อให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่น ก็อาจทำให้หน่วยงานอื่น ๆ ต้องล่าช้าตามไป

ข้อที่ 3 – บริหารการสื่อสารให้เกิดประโยชน์สูงสุด สิ่งที่สำคัญในการลดระยะเวลาในการใช้โทรศัพท์ คือการจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือให้อยู่ในบริเวณใกล้มือ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษโน้ต ปากกา หรือฐานข้อมูลบางอย่างที่จำเป็นต้องตอบคำถามได้ในทันที อีกทั้งในการโทรออกแต่ละครั้ง ก็ควรมีรายการคำถาม หรือหัวข้อที่จะติดต่อให้ครบ จะได้ไม่ต้องติดต่อกันหลายๆรอบ

ข้อที่ 4 – ไม่จับปลาสองมือ ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการมีกิ๊กแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เกี่ยวข้องกับการให้ความสำคัญ และมีสมาธิใจจดจ่ออยู่กับงานที่กำลังกระทำเท่านั้น การทำหลายๆงานพร้อมๆกันนอกจากจะทำให้งานที่ทำอยู่ต้องเสียเวลาล่าช้าแล้ว อาจจะส่งผลให้การทำงานผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ ยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขด้วยแล้วยิ่งต้องมีสมาธิสูงเป็นพิเศษ

ข้อที่ 5 – จัดการกับทุกสิ่งบนโต๊ะให้หมด เมื่อเสร็จสิ้นการทำงานใดๆแล้ว จะต้องดำเนินการให้ถึงจุดสิ้นสุด อย่าให้ค้างคาไว้ เอกสารหรืองานใด ๆ จะต้องส่งต่อไปให้ใครก็ให้รีบดำเนินการกระทำในทันที หรือแจ้งผู้ช่วยให้ดำเนินการ อย่าปล่อยไว้แล้วคิดว่าเดี๋ยวค่อยมาจัดการต่อ

ข้อที่ 6 – อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพียงเพราะเห็นว่างานนั้นมันใหญ่หรือยาก อาจจะทำใจยังไม่ได้ หรือพูดกับตัวเองว่ายังไม่พร้อมเอาไว้ก่อน การคิดเช่นนั้นทำให้งานนั้นไม่ได้เริ่มเสียที

ข้อที่ 7 – ตัดความกังวลทุกอย่างทิ้งไป โดยหันหน้าและกล้าเผชิญกับความจริง แม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะดูโหดร้าย หรือทำให้เกิดความเครียดกับคุณ ต้องเดินหน้าเข้าไปยอมรับความจริงและมุ่งแก้ไขในทันที งานใดที่เราติดขัด ถ้าหวังว่าเวลาที่เดินผ่านไปจะช่วยแก้ไขความกังวลหรือความตึงเครียดนั้นได้ ขอให้คิดใหม่ ปัญหาใด ๆ แก้ไขได้โดยการมีสติและคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
เพียงแค่ปฏิบัติตามเทคนิค 7 ข้อนี้ เชื่อว่าทุกท่านจะสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนคุณภาพ เป็นพนักงานชั้นเลิศของบริษัทได้แล้ว